Cryptography คือรากฐานของ Cryptocurrency ซึ่งมันคือกระบวนการการเข้ารหัส ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เราไปสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ เราก็จะต้องใส่ Password เพื่อ Log in เข้าสู่ระบบ โดยระบบของเว็บไซต์จะทำการเข้ารหัส Password นั้นให้อยู่ในรูปแบบของภาษาที่อ่านไม่ออก เป็นค่าที่มีตัวเลขและตัวอักษรปนกัน (Password Encryption) ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์ก็ไม่รู้ว่า Password ที่เราตั้งไว้คืออะไร
กระบวนการดังกล่าวนี้คือกระบวนการ Cryptography ซึ่งค่าที่ได้จากการ Encryption Password นั้นจะไม่สามารถย้อนกลับมาแปลงเป็น Password ที่เราตั้งไว้ได้
ถ้าเป็นรูปแบบ Private Key ของกระเป๋าคริปโตฯ ก็จะสามารถถูกเข้ารหัสและกลายเป็น Public Key หลังจากนั้นก็จะทำการเข้ารหัส Public Key เพื่อแปลงเป็น Wallet Address หรือเลขกระเป๋าที่เราสามารถบอกและเปิดเผยให้กับทุกคนได้ เพื่อที่จะสามารถทำธุรกรรมการโอนเงินกันได้
กระบวนการคือ Private Key – Public Key – Wallet Address
แต่จาก Wallet Address จะไม่สามารถเข้ารหัสย้อนกลับมาให้กลายเป็น Public Key ได้ และจาก Public Key ก็จะไม่สามารถย้อนกลับมาเป็น Private Key ได้
การเข้ารหัสเมื่อมีการโอนเงินจาก Address หนึ่งไปยังอีก Address หนึ่งเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าของ Address กับคนที่ต้องการโอนเงินคือคนเดียวกัน โดยระบบจะสร้างคำสั่งที่เรียกว่าการ Sign Transaction ขึ้นมา ซึ่งจะมีการเข้ารหัสอยู่ด้านใน โดยข้อมูลด้านในจะมี Private Key อยู่
ดังนั้นเมื่อระบบรู้ Private Key แล้ว จึงนำไปสู่การเข้ารหัสเพื่อหา Wallet Address และทำการตรวจสอบว่า Wallet Address ที่ได้จาก Private Key ตรงกันกับ Wallet Address ของผู้ต้องการที่จะทำการโอนหรือไม่ ถ้า Wallet Address ตรงกัน ก็หมายความว่าธุรกรรมนี้ถูกต้อง
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #Cryptography #Security #PrivateKey #WalletAddress #Blockchain #Crypto #Cryptocurrency #คริปโต