ในช่วงที่ผ่านมา กระแสของคริปโตฯ ได้เป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีการประกาศวันอัปเกรด Ethereum ให้เป็น Ethereum 2.0 ที่เป็นระบบ Proof-of-Stake เป็นที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะอาจเป็นความหวังในการทำกำไรได้อีกครั้ง! วันนี้แอดมินจะพาไปรู้จัก “The Merge Ethereum” กัน!
ด่วน!
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Tim Beiko นักพัฒนา Ethereum Core (ETH) เผยว่าจะมีการ Merge Ethereum Mainnet และ Beacon Chain ในวันที่ 19 กันยายนนี้!
The Merge Ethereum คืออะไร?
The Merge หมายถึง การควบรวมสองบล็อกเชน ได้แก่ Ethereum Mainnet (ใช้ระบบ Proof of Work) กับ Beacon Chain (ถูกสร้างขึ้นสำหรับการ Staking เหรียญ Ethereum) เข้าด้วยกัน เป็นกระบวนการเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ Ethereum 2.0
ทางทีมพัฒนาของ Ethereum ได้ทำการทดสอบควบรวมเครือข่าย Ethereum ผ่านระบบ Testnet ไปแล้วถึง 4 ตัวได้แก่ Klin Testnet, Ropsten Testnet, Sepolia Testnet และ Goerli Testnet
หลังจากการอัปเกรดเป็น Proof of Stake แล้ว เครือข่ายจะผลิตเหรียญ Ethereum เหลือประมาณ 1,600 ETH ต่อวันเท่านั้น ทำให้เกิด “Hyper Deflationary” หรือภาวะการฝืดอย่างรุนแรงจากการลดอัตราการผลิตเหรียญลงมากกว่า 10 เท่า ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ราคาของเหรียญ Ethereum “มีโอกาส” เติบโตสูงขึ้นได้
รู้หรือไม่?!
-การ Merge ครั้งนี้จะช่วยให้ระบบลดการใช้พลังงานไปถึง 99.95% เลยทีเดียว!
-ช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายขนาดของระบบ (scalability) อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยและความยั่งยืนจากการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ในการทำ Proof-of-Work (PoW) จะมีการยืนยันการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนโดยการแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อน มักจะต้องใช้พลังงานปริมาณมาก แต่ในการทำ Proof-of-Stake (PoS) การทำธุรกรรมบนบล็อกเชนจะได้รับการตรวจสอบยืนยันโดยเจ้าของเหรียญซึ่งจะมีการ stake คริปโตฯ ไว้บนบล็อกเชน ข้อแตกต่างที่สำคัญและเป็นจุดเด่นคือ Proof-of-Stake (PoS) จะใช้พลังงานน้อยกว่า Proof-of-Work (PoW) มาก
Techtoro แถมให้!
ถึงแม้ว่าการ Merge ของ Ethereum นี้จะสร้างกระแสของเหรียญและแนวโน้มในการทำกำไร แต่นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและข้อมูลอยู่เสมอ เพราะโลกการเงินดิจิทัลนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุก ๆ วัน และยังมีความผันผวนสูงมาก การศึกษาข้อมูลข่าวสารจะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจและเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสม