Black Swan คืออะไร ? เมื่อเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ กลายเป็นจริง !

Black Swan คืออะไร ?

“หงส์ดำ” หรือ Black Swan เป็นคำใช้เรื่องที่ไม่คาดคิด ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีความเป็นไปได้ยาก แต่เมื่อเกิดขึ้นมันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง หลายครั้ง Black Swan มักถูกใช้เรียกปรากฏการณ์ในโลกการเงินเพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อผู้คนในวงกว้าง ตัวอย่าง Black Swan ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “วิกฤต COVID-19”

ที่มาของ Black Swan

ในอดีตนั้นมนุษย์เชื่อว่า “หงส์” มีแต่สีขาวเท่านั้น และก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1697 Willem de Vlamingh (วิลเลิม เดอ วลามิง) กัปตันเรือชาวดัตช์ที่สำรวจชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของ New Holland (Australia ในปัจจุบัน) ได้ค้นพบ “หงส์ดำ” เป็นครั้งแรก ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้ได้สั่นสะเทือนความเชื่อและความรู้ของมนุษยชาติเป็นอย่างมาก

ทฤษฎี Black Swan

ทฤษฎี Black Swan ถูกคิดค้นโดย Nassim Nicholas Taleb (นัสซิม นิโคลัส ทาเลบ) นักคณิตศาสตร์ และนักซื้อขายหุ้น ชาวเลบานอน เขาจบการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ ส่วนปริญญาเอกด้านวิทยาการจัดการจากมหาวิทยาลัยปารีส พร้อมทั้งปริญญาโทอีก 1 ใบสาขาบริหารธุรกิจจาก Wharton School โรงเรียนธุรกิจในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

ในปี 2007 เขาได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable (หงส์ดำ : ผลกระทบของสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างมาก) ซึ่งหนังสือนี้ได้อธิบายทฤษฎี Black Swan ว่าสิ่งที่เข้าข่ายทฤษฎีนี้จะต้องประกอบด้วยปัจจัยดังนี้

1. เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

2. เหตุการณ์นั้นมีผลกระทบมหาศาลเมื่อเกิดขึ้น

3. หลังเหตุการณ์นั้น จะมีเหตุผลมาอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ตัวอย่างเหตุการณ์ Black Swan ในอดีต

– การจมของเรือไททานิค ปี 1912

– ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทตก ปี 1929

– ภัยพิบัติเชอร์โนบีล ปี 1986

– ฟองสบู่ดอตคอม ปี 1996-1999

– วินาศกรรม 9/11 ปี 2001

Black Swan ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

– สงครามโลกครั้งที่ 3

– เอลี่ยนบุกโลก!