Tokenized Asset คืออนาคตที่เลี่ยงไม่ได้

อธิบายคำว่า Tokenized Asset ให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า มันคือการทำให้สินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, หน่วยลงทุนในกองทุน, ทองคำ, พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ ให้มาอยู่ในรูปแบบของเหรียญดิจิทัล พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือการเปลี่ยนสินทรัพย์ในโลกจริงให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลหรือรูปแบบของโทเค็น

ตอนนี้ Regulator ทั่วโลกกำลังหวาดกลัวการเข้ามาของ Tokenized asset เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Tokenized stocks ที่โดนไล่ปิดบริการในหลาย ๆ ประเทศ, Tokenized real estate ที่มีข้อถกเถียงในวงกว้าง, Tokenized bond, Tokenized fund ฯลฯ ก็ยังคงมีข้อจำกัดในการออก

แต่ในมุมของโลกที่กำลังจะเคลื่อนไปนั้น ผมกลับมองว่า Tokenized asset เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ที่จะเชื่อมโยงโลก Traditional กับโลก Decentralize เข้าด้วยกัน ผมคิดว่าผมเข้าใจดี อย่างกรณี Mirror ที่ใช้กลไก CDP ในการสร้าง “หุ้นปลอม” ที่ peg ราคากับ “หุ้นจริง” ในตลาด อาจจะก่อให้เกิดกลไกการบิดเบือนราคาได้

แต่ในกรณี Asset-backed token อย่าง Tokenized stocks ของ Binance ก็ยังโดน SEC สหรัฐฯ เบรคไม่ให้เกิดทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว กลไกการออกแบบ Tokenized stocks มันเหมือนกับการออก DR (Depository Receipt) ในโลก Traditional เลยด้วยซ้ำ

ผมเข้าใจว่า สิ่งที่ SEC กลัว ไม่ใช่เรื่องการปกป้องดูแลนักลงทุนหรอก แต่เป็นการปกป้องการโดน Disrupt ของ Traditional exchange อย่าง NYSE หรือ Nasdaq ต่างหาก เพราะหาก Tokenized asset เกิดขึ้นจริงแล้ว การซื้อขายและสภาพคล่องอาจจะไหลไปสู่โลกของ Decentralize มากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่มองกลับกัน หาก Tokenized asset เกิดขึ้นได้โดยมีกลไกการกำกับดูแลที่ดี เช่น ยอมให้มีการทำ KYC/AML ผลประโยชน์จะเกิดกับประเทศที่ Legalize เรื่องนี้มากแค่ไหน

📍 ความฝันที่จะเป็นศูนย์กลางการเงินของประเทศนั้น ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาที่สั้นมาก เพราะสินทรัพย์ที่ถูก Tokenized ทุกอย่าง สามารถมีตลาดรอง มารองรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ทันที

📍 เพิ่มสภาพคล่องของตลาดรองที่ไม่มีประสิทธิภาพในโลก Traditional เช่น ตลาด Bond, ตลาด Commodity (ในไทย)

📍 ลดต้นทุนการทำธุรกรรมจากคนกลาง ส่งต่อประโยชน์ไปยังผู้ถือสินทรัพย์ในรูปแบบของ Liquidity providing

📍 การต่อยอดไปยังกลไกการเงินต่าง ๆ เช่น การปล่อยกู้ โดยใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน แบบ CDP (Collateral Debt Position) นั่นแปลว่า สินทรัพย์ที่คุณถือในรูปแบบ Tokenized stock ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน, หุ้น, ตราสารการเงินต่าง ๆ สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายในหลัก “นาที” ไม่ใช่หลัก “สัปดาห์” แบบที่เป็นอยู่ในโลก Traditional

ข้อเสียของการเปิดตลาดเสรีของ Tokenized asset ล่ะ..?

📍 การกำกับดูแลยากขึ้น (ประเด็นนี้ผมคิดว่าสามารถมาเจอกันครึ่งทางได้ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตน การตรวจสอบเส้นทางการเงิน ฯลฯ)📍

การก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็น Rug pull หรือการ Hack ข้อมูลโดย Hacker ต่าง ๆ ซึ่ง “เวลา” จะช่วยให้เทคโนโลยี Decentralize สุกงอมและปลอดภัยมากขึ้น (ดูอย่าง Uniswap ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าแทบจะปลอดภัยมากที่สุดแล้วด้วยซ้ำ)

📍 ตลาด Traditional อาจจะโดน Disrupt

ในจังหวะที่ Regulator หลายประเทศกำลังหวาดกลัว กลับมี Regulator อีกหลายประเทศที่อาศัยจังหวะนี้เป็นโอกาส ที่จะสร้างศูนย์กลางทางการเงินโลกใหม่ขึ้นมา ประเทศไทยเรามีศักยภาพที่จะทำสิ่งนี้ได้ มันถึงเวลาหรือยัง ที่จะมาคิดถึงอนาคตของประเทศไทยกันจริง ๆ มากกว่าแค่การออกกฏเกณฑ์ป้องกัน

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมานั่งคุยกัน “จริง ๆ” วางแผนกัน “จริง ๆ” ว่าเราจะวาง “ยุทธศาสตร์ชาติ” อย่างไร ที่จะสามารถขับเคลื่อนประเทศไปได้ในอนาคตที่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง

เราต้องการวิสัยทัศน์ เราต้องการภาครัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ เราต้องการภาครัฐที่ทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ภาครัฐที่หวาดกลัวเทคโนโลยีทุกสิ่งทุกอย่าง ปิดกั้นภัยคุกคาม ทั้ง ๆ ที่รู้ก็รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว มันก็จะบุกเจาะทำลายเข้ามาในประเทศได้ (และสิ่งนั้นอาจจะไม่ได้เป็น “ภัย” แบบที่คุณคิด)

ข้อมูลโดย นิรันดร์ ประวิทย์ธนา Co-Founder & CEO AVA Advisory Group และ CEO Avareum Limited

ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ :point_right::skin-tone-2:
LINE : https://bit.ly/3JR2hst
Facebook : https://bit.ly/3n9SLae
Youtube : https://bit.ly/3Gd5mkl
Instragram : https://bit.ly/3r492ym
Twitter : https://bit.ly/3JXovcy
Blockdit : https://bit.ly/3q5Y24w
 Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้