Synthetic Assets คือ สินทรัพย์สังเคราะห์ที่อยู่ในโลกของคริปโตและบล็อกเชนโดยมีต้นแบบคือสินทรัพย์ในโลกของการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเช่นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย
รูปแบบของสินทรัพย์สังเคราะห์คล้ายกับตราสารอนุพันธ์นั่นเองคือผู้ลงทุนไม่ได้ลงทุนตรงในสินทรัพย์นั้น ๆ แต่จะลงทุนผ่านตราสารที่อ้างอิงกับสินทรัพย์นั้น ๆ แทนซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์ต้นฉบับ
สินทรัพย์ที่สามารถนำมาสร้างเป็น Synthetic Assets ได้และเป็นที่นิยมคือหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น APPLE, TESLA หรือ MICROSOFT
ใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน
Synthetic Assets ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาแบบลอย ๆ โดยไม่มีสินทรัพย์ใดหนุนหลัง แต่ถูกสร้างหรือ Mint ขึ้นมาโดยสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเช่น Stablecoins หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
หลักการคือเราจะต้องนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงกว่าสินทรัพย์อ้างอิงมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น ใช้ Stablecoins มูลค่า 150 USDT มาสร้างสินทรัพย์สังเคราะห์ที่จะมีมูลค่าต่ำกว่าคือ 100 USDT เนื่องจากเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่มูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิงลงมาต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สังเคราะห์ อันเนื่องมาจากราคาที่อาจจะมีความผันผวนสูงนั่นเอง
อย่างไรก็ตามสัดส่วน Collateral Ratio จะแตกต่างกันไปตามแต่ DeFi Protocol นั้น ๆ จะกำหนดขึ้นซึ่งเราจะต้องทำการศึกษาข้อบังคับนี้ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้การ Mint สินทรัพย์อ้างอิงจะทำให้เกิดสถานะของการเป็นหนี้ขึ้นกับ DeFi Protocol ถ้าหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มสูงขึ้นเราจำเป็นที่จะต้องนำสกุลเงินดิจิทัลมาวางค้ำประกันเพิ่ม
เนื่องมาจากมูลค่าหนี้ที่เรากู้มาจาก DeFi Protocol เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง จึงจำเป็นต้องวางเงินเพิ่มเพื่อให้ Collateral Ratio กลับมาอยู่ในระดับที่กำหนด
สรุปสั้น ๆ คือหากราคาหุ้นหรือสินทรัพย์อ้างอิงลดลง มูลค่าหนี้ที่เราค้ำประกันไว้กับ DeFi Protocol ก็จะลดลง ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ลงทุน
สินทรัพย์สังเคราะห์ที่เราสร้างขึ้นจะสามารถนำไปขายในแพลตฟอร์มหรือนำไปวาง Staking หรือ Yield Farming เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติมได้อีก Ratio กลับมาอยู่ในระดับที่กำหนด
Oracle เทคโนโลยีที่เชื่อมระหว่างโลกการเงินใหม่และเก่า
กลไกที่ทำให้ Synthetic Assets มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ไปในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์ต้นฉบับก็คือเทคโนโลยี Oracle ซึ่งเชื่อมต่อฐานข้อมูลต่าง ๆ เช่น ราคาหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ ให้เข้ามาอยู่ในโลกของบล็อกเชนได้
เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีการเคลื่อนไหว ราคาของสินทรัพย์สังเคราะห์ที่นำมาอ้างอิงก็จะมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เท่ากับว่าสินทรัพย์ในโลกการลงทุนดั้งเดิมที่มีอยู่จำนวนมากก็จะสามารถเข้ามาอยู่ในโลกดิจิทัลและบล็อกเชนได้
แพลตฟอร์ม Synthetic Assets ที่ได้รับความนิยม
Synthetix (SNX)
ถือว่าเป็น DeFi สาย Synthetic Asset รายใหญ่ที่สุด โดยจะเน้นไปที่การสร้างสกุลเงินดิจิทัลใหม่ขึ้นมาจากการสังเคราะห์ โดยจะต้องนำโทเคน SNX ไปวาง Stake ในสัดส่วน Collateral Ratio 600% กล่าวคือวางเงิน 600 USDT แต่สร้างสินทรัพย์สังเคราะห์ได้ 100 USDT
หลังจากนำไป Mint แล้วก็จะได้โทเคน sUSD หรือ sETH ในการใช้ซื้อขายสินทรัพย์สังเคราะห์ภายในแพลตฟอร์มซึ่งจะเรียกว่า Synths โดยการที่เรานำเหรียญ SNX ไปวาง Stake จะได้รับผลตอบแทนต่อปี 25% และส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมที่เกิดจากผู้ใช้งานทั้งหมดที่ใช้งาน synthetix.exchange
Mirror
เป็นแพลตฟอร์มที่ทำงานภายใต้ Terra Chain มีจุดเด่นที่สามารถสร้างและทำ Yield Farming ในสินทรัพย์จำลองที่อ้างอิงกับหุ้นชั้นนำอย่าง GOOGLE, TWITTER, ALIBABA ฯลฯ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้สร้างสินทรัพย์สังเคราะห์หรือจะเข้าไปซื้อจากคนอื่นที่มา Mint ไว้ก่อนหน้าแล้วหรือจะเลือกทำ Yield Farming ภายในแพลตฟอร์มซึ่งจะได้รับรางวัลเป็น Governance Token นั่นคือเหรียญ MIR
สรุป
Synthetic Assets คือ เทคโนโลยีที่จะเชื่อมต่อสินทรัพย์การลงทุนในโลกดั้งเดิมซึ่งเป็นที่รู้จักเข้ามาอยู่ในโลกของ DeFi ซึ่งจะทำให้การเติบโตของโลกการเงินแบบไร้ตัวกลางนี้เป็นที่เข้าใจรวมถึงได้รับความนิยมในการลงทุนมากยิ่งขึ้น
นเรศ เหล่าพรรณราย
CEO and Founder : Ricco Wealth
เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
LINE@ : https://bit.ly/3JR2hst
Youtube : https://bit.ly/3Gd5mkl
Twitter : https://bit.ly/3JXovcy
Blockdit : https://bit.ly/3q5Y24w
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้