แอดมินเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนกันมาบ้างไม่มากก็น้อย เทคโนโลยีนี้ได้เข้ามาพัฒนาหลากหลายวงการให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วงการที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ การงินดิจิทัลนั่นเอง โดยบล็อกเชนนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Public Blockchain และ Private Blockchain วันนี้แอดมินจะพาไปดูกันค่ะว่าสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลย!
Public Blockchain
- ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต (Permissionless)
- มีความ decentralized (การกระจายอำนาจ)
- ไม่มีบุคคลหรือองค์กรใดเป็นเจ้าของระบบ
- ข้อมูลไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้
- ทุก Node มีสิทธิ์อย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงบล็อกเชน การเพิ่มบล็อกข้อมูลและตรวจสอบบล็อกข้อมูล
- มีความสามารถในการรองรับปริมาณ Transaction น้อยกว่า Private Blockchain
- มีค่าธรรมเนียมสูงกว่า Private Blockchain
- ทำธุรกรรมช้ากว่า Private Blockchain
- มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า Private Blockchain
- ประสิทธิภาพต่ำกว่า Private Blockchain
ตัวอย่างเช่น Bitcoin, Ethereum
Private Blockchain
- ผู้ที่จะมีสิทธิ์เข้าถึงต้องได้รับการเชิญหรือได้รับอนุญาตเท่านั้น
- มีความ decentralized(การกระจายอำนาจ) บางส่วน
- มีบุคคลหรือองค์กรที่คอยดูแลระบบ
- ข้อมูลสามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้บางส่วน
- ไม่ใช่ทุก node ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบล็อกเชน การเพิ่มบล็อกข้อมูลและตรวจสอบบล็อกข้อมูล
- มีความสามารถในการรองรับปริมาณ transaction มากกว่ากว่า Public Blockchain
- มีค่าธรรมเนียมถูกกว่า Public Blockchain
- ทำธุรกรรมได้เร็วกว่า Public Blockchainมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า Public Blockchain
- ประสิทธิภาพสูงกว่า Public Blockchain
ตัวอย่างเช่น เช่น Hyperledger, Ripple

________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #คริปโต #บล็อกเชน #Crypto #Blockchain #Cryptocurrency #Bitcoin #BTC #PublicBlockchain #PrivateBlockchain