เจาะโมเดล Play-To-Earn และ Click-To-Earn ในโลก GameFi

Play-To-Earn และ Click-To-Earn แตกต่างกันอย่างไร?

Play-To-Earn คือ โมเดลใหม่ของการเล่นเกมส์ที่ผู้เล่นสามารถที่จะสร้างรายได้จากการเล่นเกมส์จากเดิมที่โมเดลการหาเงินจากเกมส์ก็คือการได้รับสปอนเซอร์จากผู้สร้างเกมส์หรือเงินบริจาคของผู้ชมใน Broadcast หรือการขายไอเท็มต่าง ๆ กันเองในเกมส์ แต่ GameFi สามารถสร้างรายได้โดยไม่มีคนเหล่านี้

คำถามคือเกมส์พวกนี้เอาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้ผู้เล่น คำตอบคือมาจาก “กิจกรรมทางเศรษฐกิจ” ที่เกิดขึ้นภายในเกมส์ โดยผู้สร้างเกมส์จะต้องสร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจภายในเกมส์โดยที่ใช้เหรียญหรือโทเคนดิจิทัลเป็นสื่อกลาง

ซึ่งผู้สร้างเกมส์เป็นผู้สร้างเหรียญหรือโทเคนที่ใช้ในเกมส์ขึ้นมา ซึ่งตรงนี้เป็นการใช้ข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีบล็อกเชนคือสามารถสร้างโทเคนขึ้นมาได้จำนวนไม่จำกัดแล้วแต่ว่าจะเขียนโค้ดขึ้นมาเท่าไรก็ได้

เพียงแต่ว่าการที่จะได้มาซึ่งเหรียญเป็น Reward นั่นจะต้องมีการทำกิจกรรมภายในเกมส์ถึงจะได้เป็นเจ้าของโดยผู้สร้างเกมส์ก็ต้องกำหนดกติกาต่างๆขึ้นให้มีความยากง่ายแตกต่างกันออกไป

โมเดลของ Play-To-Earn จะมีวงจรของ Tokenomic หรือระบบเศรษฐกิจของเกมส์นั้น ๆ ดังนี้

1. แพลตฟอร์มเกมส์สร้างโทเคนขึ้นโดยผู้เล่นจะต้องเป็นเจ้าของโทเคนนั้น ๆเพื่อใช้เป็นสกุลเงินที่ใช้ในเกมส์ โดยอาจจะได้โทเคนนั้นมาจากการระดมทุนที่เรียกว่า IGO (Initial Game Offering) คล้าย ๆ กับการทำ IEO หรือจะซื้อโทเคนจาก Exchange ก็ได้

2.นำโทเคนของเกมส์ไปซื้อไอเท็มหรือตัวละครที่จะใช้เล่นเกมส์ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง NFT จากนั้นก็สามารถเล่นเกมส์ได้เลย

3. เล่นเกมส์จนได้รับรางวัลตามเงื่อนไขที่กำหนดผู้เล่นจะได้รับโทเคนของเกมส์มาไว้กับตัวนั้น ๆ ซึ่งจะเลือกได้ว่าจะนำไปลงทุนต่อโดยการนำไปซื้อไอเท็มหรือตัวละครที่มีความสามารถมากขึ้นเพื่อที่จะสามารถไต่ระดับการเล่นสูงขึ้นไปให้ได้รางวัลที่มากขึ้นหรือจะนำออกไปขายใน Exchange เพื่อกลับเป็นเงิน

ขอบคุณภาพจาก: riccowealth.co

จะเห็นได้ว่าโมเดล Play-To-Earn ผู้เล่นไม่ใช่เป็นผู้รับเงินแต่อย่างเดียวแต่จะต้องเป็นฝ่ายลงทุนหรือจ่ายเงินด้วยเพื่อให้เกิดรายได้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการที่เราลงทุนในธุรกิจและลงแรงเพื่อให้มีรายได้กลับมา

ทั้งนี้เกมส์ต้องออกแบบให้เหรียญหรือโทเคนนั้น ๆ มีคุณค่าในตัวเองเพื่อที่จะใช้ในเกมส์ต่อไป ไม่เช่นนั้นก็จะมีแต่ผู้ที่เล่นเกมส์เพื่อให้ได้เหรียญไปขายเพื่อทำเงินเท่านั้น

แล้วโมเดล Click-To-Earn เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

นอกเหนือจาก Play-To-Earn แล้ว ในโลกของ GameFi ยังมีรูปแบบการสร้างรายได้ที่เรียกว่า Click-To-Earn อีกด้วย โดยรูปแบบคือผู้เล่นอาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนกับไอเท็มหรือตัวละครที่ใช้ในเกมส์มากเท่ากับโมเดล Play-To-Earn หรืออาจจะไม่ต้องลงทุนก่อนเลยก็ได้ เพียงแค่สมัครเข้ามาก็เริ่มเล่นได้เลย

สาเหตุที่เรียกว่า Click-To-Earn ก็เพราะผู้เล่นสามารถที่จะใช้เมาส์คลิ๊กก็สามารถที่จะรับเหรียญหรือโทเคนของเกมส์เข้ามาใน Wallet ได้เลย ระบบ Tokenomic ภายในเกมส์อาจจะไม่ซับซ้อนมากเท่ากับเกมส์ที่เป็น Play-To-Earn

อย่างไรก็ตาม เกมส์ที่เป็นรูปแบบ Click-To-Earn ยังมีคำถามในแง่ของความยั่งยืนของเกมส์ในระยะยาว เพราะผู้เล่นอาจจะได้เงินจากการเล่นเกมส์ง่ายเกินไปจนทำให้เกมส์มีความน่าเบื่อรวมถึงตัวเกมส์อาจจะเกิดระบบที่ล้มเหลวขึ้นได้ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่น

ทั้งนี้บางเกมส์อาจจะมีทั้งโมเดล Play-To-Earn และ Click-To-Earn รวมอยู่ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าจะสร้างสรรรูปแบบเกมส์ออกมาอย่างไร

สิ่งที่จะทำให้โมเดล Play To Earn เกิดขึ้นและเดินต่ออย่างยั่งยืน ผู้สร้างเกมส์จะต้องออกแบบระบบเกมส์ให้มีความสมดุลระหว่างความต้องการของทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย ที่สำคัญคือเกมส์ต้องมีความ “สนุก” เพราะวัตถุประสงค์หลักของการเล่นเกมส์ก็คือความสนุก ส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นถือเป็นส่วนแถมไป

การที่ตั้งใจจะเข้ามาเล่นเกมส์เพื่อสร้างรายได้อย่างจริงจังโดยไม่สนใจความสนุกในเกมส์ สุดท้ายแพลตฟอร์มนั้นๆก็จะเสื่อมความนิยมไปเอง

นเรศ เหล่าพรรณราย

CEO and Founder : Ricco Wealth

เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

________________________________

ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์

กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻

FB : https://techtoro.me/web-fb