ใครที่อยู่ในโลกของการลงทุนคริปโต น่าจะเคยได้ยินชื่อ ‘Kim DeFi Daddy’ หรือกันมาบ้าง เพราะเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องของ DeFi (Decentralized Finance) หรือการเงินไร้ศูนย์กลาง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคุณ ‘คิม – กานต์นิธิ ทองธนากุล’ หรือ Kim DeFi Daddy กันให้มากขึ้น ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และทำอะไร ไปดูกันได้เลย
Kim DeFi Daddy คือใคร
‘คิม – กานต์นิธิ ทองธนากุล’ เป็นผู้ก่อตั้ง และเจ้าของเพจคริปโตเคอร์เรนซีที่มีผู้ติดตามมากกว่า 265,000 คน อย่าง Bitcoin Addict Thailand และเว็บไซต์ BitcoinAddict.org นอกจากนี้ยังมีแฟนเพจของตัวเองในชื่อ ‘Kim DeFi Daddy’ โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 136,000 คน และยังเป็นคนไทยคนแรก ๆ ที่สามารถสร้างรายได้จากเทคโนโลยี DeFi
คุณกานต์นิธิ ทองธนากุล หรือ ‘คิม’ สำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการพัฒนาซอฟต์แวร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของเมอร์เคิล แคปปิตอล (Merkle Capital)

Merkle Capital คืออะไร
เมอร์เคิล แคปปิตอล (Merkle Capital) เป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Management) ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้เครือบริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป (Cryptomind Group) บริษัทให้การดูแล และบริหารการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย และปลอดภัยอย่างยั่งยืน
Merkle Capital ดียังไง
‘เมอร์เคิล แคปปิตอล’ มีจุดเด่นคือการดูแล และบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับลูกค้าทั้งหมด นักลงทุนจะไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการซื้อขาย หรือเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง สินทรัพย์ของนักลงทุนจะถูกเก็บรักษาด้วยมาตราฐานขั้นสูงสุด ในขณะเดียวกันสามารถรับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยตรง
อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับ ทรูมันนี่ (TrueMoney) ผู้นำด้านบริการด้านการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปิดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน E-Wallet ครั้งแรกในประเทศไทย โดยสามารถเปิดบัญชีได้ง่าย ๆ ใน 5 นาที และเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 3,000 บาท
ตัวอย่างกลยุทธ์การลงทุน
M-Bitcoin Alpha (M-BTCA)
บริษัทจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มอัตรา (Fully Invested) ตลอดเวลา โดยจะลงทุนใน Bitcoin (BTC) ในตลาดแลกเปลี่ยนชั้นนำที่ผ่านมาตรฐานของบริษัท ตามที่เห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยมีสัดส่วนการลงทุนของพอร์ตเป็น Bitcoin (BTC) 100%
M-Large Cap (M-LCAP)
กลยุทธ์ M LCAP คัดสรรกลุ่มสินทรัพย์อันดับต้นของตลาด พร้อมการ Rebalance อัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทจะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มอัตรา (Fully Invested) ตลอดเวลา โดยจะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล 7 อันดับแรกตามราคาตลาด (Market Capitalization)
M-METAVERSE (M-META)
เน้นลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่เป็นแกนหลักทั้งทางตรง และทางอ้อมของเทคโนโลยี Metaverse เต็มอัตรา (Fully Invested) โดยจะลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Metaverse รวมไปถึงโทเคนดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับเกม, NFTs และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในอีโคซิสเต็มที่เข้าหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก
บทความโดย คุณานันต์ TECHTORO 💙❤️
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #Crypto #Bitcoin #BTC #DeFi #KimDeFiDaddy #Merkel #MerkelCapital #CryptoMind #Blockchain #Investment #ลงทุน #คริปโต #บิตคอยน์ #บล็อกเชน