รู้จักกับการลงทุนเพื่อการเกษียณ เส้นทางสู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

กลับมาอีกครั้งกับ “การเกษียณเดอะซีรีย์” ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับการเกษียณกัน! วันนี้แอดมินมีเครื่องมือการลงทุนสำหรับการเกษียณมาฝาก จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!

เริ่มกันที่ “กองทุนรวม” พูดง่าย ๆ คือ การนำเงินของนักลงทุนแต่ละท่านมารวมกันเพื่อลงทุนตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น ๆ มีความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันตามประเภทและนโยบายของผู้จัดการกองทุนรวมนั้น ๆ

ตัวอย่างกองทุนรวม

กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) 

-มีนโยบายการลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ระยะสั้นอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี
-มีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาต่ำที่สุด แต่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวน้อยกว่ากองทุนอื่น
-มีสภาพคล่องสูง
-โดยทั่วไปมักให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์

กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund) 

-มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง ตั๋วสัญญาใช้เงิน พันธบัตร รัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนหุ้นกู้ภาคเอกชน
-มีความเสี่ยงในระดับต่ำ
-ความเสี่ยงและผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวมักสูงกว่ากองทุนรวมตลาดเงิน

กองทุนรวมผสม (Balanced Fund) 

-มีนโยบายกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและสินทรัพย์เสี่ยง
-มีการจำกัดความเสี่ยงไปในขณะเดียวกัน
-โดยทั่วไปกำหนดให้ลงทุนในตราสารทุนในขณะใดขณะหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 35% และไม่เกิน 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ

กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) 

-มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในการซื้อขาย หลักทรัพย์ (Warrant)
-มีสัดส่วนการลงทุนตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด คือโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF)

-มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย -ผู้ลงทุนได้รับการลดหย่อนและยกเว้นภาษีเป็นการจูงใจ

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF)

-มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลายหลาย มีระดับความเสี่ยงให้เลือก
-มีวัตถุประสงค์เพื่อสะสมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ

ETF หรือ Exchange Traded Fund หรือรู้จักกันในชื่อ กองทุนรวมดัชนี (Index Fund)
-มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารหนี้ เป็นต้น
-มีจุดประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีมากที่สุด


ต่อมาเป็นการลงทุนที่ทุกคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี “หุ้น” นั่นเอง หรือที่ชอบเรียกกันว่า “เล่นหุ้น” การลงทุนในหุ้นต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์และที่สำคัญที่สุดคือ “ความเข้าใจ”

หุ้น (Stock)
หุ้น หรือ Stock เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือเพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” ซึ่งจะมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือมีสิทธิในทรัพย์สิน และรายได้กิจการ รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend) ซึ่งอยู่กับผลกำไร และข้อตกลงของกิจการนั้นๆ

Techtoro แถมให้!
Peter Lynch ได้แบ่งหุ้นเป็น 6 ชนิด ได้แก่ หุ้นโตเร็ว (Fast Growers), หุ้นแข็งแกร่ง (Stalwarts), หุ้นโตช้า (Slow Growers), หุ้นฟื้นตัว (Turnarounds), หุ้นวัฏจักร (Cyclicals) และหุ้นทรัพย์สินมาก (Asset Play)

สลากออมทรัพย์
สลากออมทรัพย์ คือ การฝากเงินกับธนาคารที่สามารถได้ทั้งดอกเบี้ยและเงินรางวัลด้วย (หากเลขบนสลากตรงกับเลขที่ออกรางวัล) ปัจจุบันมี 2 ธนาคารหลักที่เปิดจำหน่าย คือ ธนาคารออมสิน และ ธนาคาร ธ.ก.ส. สลากออมทรัพย์จึงนิยมถูกเรียกตามชื่อธนาคารว่า สลากออมสิน และ สลาก ธ.ก.ส..


ทองคำ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำและเป็นเครื่องมือการลงทุนที่นิยมในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวกมาก ได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย สามารถซื้อเก็บสะสมได้เรื่อย ๆ ในปัจจุบัน มีสิ่งที่เรียกว่า “การออมทอง” ซึ่งเป็นการลงทุนในทองคำที่ไม่ต้องใช้เงินก้อนในการซื้อ สามารถทยอยสะสมไปเรื่อย ๆ ได้ ขั้นต่ำ 100 บาท!  

________________________________

ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์

กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻

FB : https://techtoro.me/web-fb

LINE@ : https://techtoro.me/web-line

Youtube : https://techtoro.me/web-yt

IG : https://techtoro.me/web-Ig

Twitter : https://techtoro.me/web-tw

Blockdit : https://techtoro.me/web-bd

Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok 

Email : [email protected]

#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #RetireTheSeries #Investment #กองทุนรวม #หุ้น #ETF #ทอง #เกษียณ