หลังจากตลาดคริปโตฯ เริ่มฟื้นตัว นักลงทุนหลายฝ่ายเริ่มมองว่า Bitcoin ผ่านก้นหลุมมาแล้ว ทำให้เหล่า ‘สแกมเมอร์’ (Scammer) หรือมิจฉาชีพที่สวมรอยเป็นบุคคลอื่น ได้กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยช่วงที่ผ่านมามีข่าวนักลงทุนสูญเงินไปเป็นจำนวนหลายล้านให้เหล่าสแกมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็น Exchange ปลอม หรือถูก Phishing วันนี้แอดมินรวบรวมข้อมูลและวิธีรับมือกับเหล่าสแกมเมอร์ ไม่ให้เพื่อน ๆ ต้องตกเป็นเหยื่อคนโกง ไปดูกันเลย!
1. Phishing Scam ล่อให้กินเหยื่อ
Phishing เป็นกลโกงที่มีมาอย่างยาวนานบ้างก็ว่าเกิดขึ้นพร้อมกับอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว โดย Phishing นั้นพ้องเสียงกับคำว่า Fishing ที่หมายถึงการตกปลานั่นเอง กลโกงดังกล่าวเปรียบเทียบได้กับการปล่อยให้ปลามากินเหยื่อที่ล่อไว้ ซึ่งลักษณะของการโจมตีแบบ Phishing จะเป็นการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต เพื่อขโมยข้อมูลที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน, Seed Words เป็นต้น
Phishing อาจมาในรูปแบบของลิงก์เว็บไซต์ หรือลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยแอบอ้างเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ และสร้างหน้าตาเว็บไซต์ หรือรูปแบบอีเมลให้เหมือนกับบริการของจริง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ทำการล็อกอินเข้าใช้งานด้วยความเคยชิน หรืออาจมาในรูปแบบของ ‘บริการช่วยเหลือ’ (Technical Support) ที่หลอกให้ผู้ใช้ทำการกรอกรหัสผ่านลงในเว็บไซต์ปลอม และขโมยบัญชีไป
2. Giveaway Scam หลอกว่าจะให้เงิน /โทเคนฟรี
สแกมเมอร์ประเภทนี้มักแอบอ้างชื่อของคนดัง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงโดยการสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียปลอม ๆ ขึ้นมา จากนั้นจึงทำการโพสต์หรือส่งข้อความ Direct Message ไปหาเหยื่อว่าจะ “แจกเงินหรือโทเคนให้แบบฟรี ๆ” โดยให้ผู้ที่สนใจรับสิทธิทำการยืนยันตัวตนโดยการจ่าย ‘ค่าธรรมเนียม’ ผ่าน Crypto Wallet ก่อนจึงจะโอนเงินหรือโทเคนเข้าไปใน Wallet ของเหยื่อ ซึ่งเมื่อเหยื่อทำการโอนเงินค่าธรรมเนียมให้แล้วก็จะเงียบหายไป
อีกรูปแบบหนึ่งที่มักพบเห็นคือแสร้งว่าเป็นไลฟ์ของคนดังในโลกคริปโตฯ แล้วขึ้นข้อความให้ส่งเหรียญคริปโตฯ ไปให้คนดังดังกล่าวเพื่อรับเหรียญเพิ่ม เช่น ส่งมา 200 ADA แล้วเราจะส่งคืนให้ 400 ADA ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ เจอข้อความลักษณะนี้ที่ไหน เมื่อไรล่ะก็ ท่องเอาไว้ในหัวเลยว่า “อย่าโลภ ของฟรีไม่มีจริง”
3. Fake Exchange กระดานเทรดปลอม
อีกหนึ่งกลโกงยอดนิยมซึ่งสามารถกอบโกยเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล สแกมเมอร์ประเภทนี้จะทำการล่อลวงเหยื่อด้วย Exchange ชื่อดังเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยอาจล่อลวงโดยการให้สัญญาว่าจะให้โบนัสคริปโตฯ ถ้าเหยื่อเทรดหรือสมัครบัญชีกับสแกมเมอร์ และเหยื่อจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกหลอก จนกว่าเงินในบัญชีจะหายไปจนหมด ดังนั้นนักลงทุนต้องหมั่นหาความรู้ และระวังตัวอยู่เสมอ
4. Rug Pull ทิ้งโพรเจกต์ หอบเงินหนี
Rug Pull แปลตรงตัวว่า ‘ดึงพรม’ ซึ่งหมายถึงการทำให้เหยื่อ ‘ล้ม’ (สูญเสียเงิน) ในทันที โดยสแกมเมอร์ประเภทนี้มักมีความเกี่ยวข้องกับ ‘Pump and Dump’ หรือเหรียญที่มีการปั่นราคาให้พุ่งขึ้นสูง เพื่อล่อลวงนักลงทุนให้มีความสนใจ และนำเงินมาลงกับเหรียญ หรือโพรเจกต์นั้น ๆ หลังจากนั้นจึงทำการ Rug Pull ดึงเงินที่หมุนเวียนอยู่ในระบบออกไปทั้งหมด
5. Ponzi schemes แชร์ลูกโซ่
แชร์ลูกโซ่คือการนำเงินของนักลงทุนหน้าใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่าที่อยู่มาก่อน หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหัวของพีระมิด เป็นวัฏจักรวนเวียนไปอย่างนี้ และเนื่องจากแชร์ลูกโซ่นั้นไม่ได้มีการลงทุนจริง ๆ เป้าหมายของสแกมเมอร์ประเภทนี้จึงเป็นการมุ่งเป้าไปที่นักลงทุนหน้าใหม่ที่จะนำเงินเข้ามาในระบบ โดยส่วนใหญ่แชร์ลูกโซ่มักให้สัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนสูง และมีความเสี่ยงต่ำ
บทความโดย คุณานันต์ TECHTORO 💙❤️
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #Crypto #Bitcoin #BTC #Blockchain #Scammer #คริปโต #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #บล็อกเชน #มิจฉาชีพ