การมาของ Cryptocurrency อย่าง Bitcoin และการพัฒนาต่อยอดมาถึงสิ่งที่เรียกว่า Stablecoin ที่ในหลายบทความเก่า ๆ ของเราเคยอธิบายแล้วว่าคืออะไร มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร จนมาถึงตอนนี้กระแสของการใช้ Cryptocurrency ไม่ใช่แค่เรื่องของการลงทุนแล้ว แต่ครอบคลุมไปทุกด้าน เช่น Save, Spend, Invest หรือการออม การใช้จ่าย และการลงทุนด้วย Cryptocurrency พวกเราจึงเห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับเข้าร่วมแนวโน้มนี้จากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่เกี่ยวกับ Saving สถาบันที่เกี่ยวกับ Investment และสถาบันที่เกี่ยวกับ Spending ซึ่งในบทความนี้เราจะมาขยายความส่วนของ Spend ครับ
PayPal เปิดประตูสู่โลก Cryptocurrency ให้กับสมาชิก
ย้อนไปในเดือนพฤศจิกายน 2020 PayPal เปิดประตูสู่โลก Cryptocurrency ให้กับสมาชิกในการซื้อขายเงินดิจิทัลในแพลตฟอร์มของตนเอง และอนุญาตอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2021 ซึ่งในช่วงแรกผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มีการประเมินว่าอาจจะสามารถเพิ่มรายได้ประมาณ 1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในความเป็นจริงสามารถทำได้ถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 20% อีกทั้งยังมีตัวเลขการเข้าสู่ระบบของสมาชิกเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิม แต่คงเป็นเพราะช่วง Covid-19 ด้วยที่ทำให้คนหันมาใช้งานธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกมากมายที่ยอมรับ Bitcoin หรือ Stablecoin เช่น Visa, Mastercard, Revolut, Klarna, PayU, Square และ eBay
จับตามองการเติบโตของ Cryptocurrency จากฐานผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทั้งหมด
เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้มีทั้งลูกค้า ร้านค้า และทั้งพันธมิตรมากมาย การเปิดประตูเชื่อมต่อระหว่างการเงินยุคเดิมและการเงินยุคดิจิทัลจะสร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบหลายด้าน ทั้งในมุมของผู้ใช้บริการที่มีช่องทางหลากหลาย ร้านค้าที่มีช่องทางการชำระเงินมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของ Cryptocurrency ที่ส่งผลบวกไปเต็ม ๆ
คุณ Jose Fernandez รองประธานของ PayPal กล่าวว่าเพียง 10% ของจำนวน Ecosystem ทั้งหมดก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้มหาศาล ผู้ใช้บริการจะสะดวกและมีต้นทุนที่ลดลงในอนาคต แต่เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป
Insight และความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา
1. PayPal อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อขาย Cryptocurrency ได้หลายสกุลเงิน
2. Visa สามารถชำระธุรกรรมด้วย UDSC บนเครือข่ายได้แล้ว (ผ่าน Anchorage)
3. Mastercard จะเปิดตัวบัตรเครดิต Crypto ด้วย 30 สกุลเงิน
4. Revolut กำลังวางระบบให้ผู้ใช้บริการเข้าถึง Cryptocurrency
5. Klarna กำลังจะเปิดตัว Crypto Payments กับธนาคาร (ประมาณ 5,000 แห่ง)
6. PayU เปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัลและลงทุนในบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain
7. Square มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคนที่ซื้อ Cryptocurrency ในเดือนมกราคม 2021 ผ่าน Cash App
8. Ebay ประกาศว่าจะเปิดการชำระเงินด้วย Crypto และรวม NFTs เข้าไปไว้ในแพลตฟอร์มด้วย
ฐานลูกค้าทั้งหมดของแพลตฟอร์มและโอกาสในการเติบโตของ Cryptocurrency
เพื่อให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในแง่ Spend หรือจะเรียกว่า Crypto Payments ว่ามีมากแค่ไหน หาก Square, PayPal , Mastercard และ Visa จะรวมการชำระเงินด้วย Cryptocurrency เข้ากับเครือข่ายของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ จะมีร้านค้าและลูกค้ารายย่อยกี่รายที่จะสามารถใช้การชำระเงินเหล่านี้ได้
4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คือตัวเลขประมาณการของการใช้งานการชำระเงินออนไลน์
อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะเติบโตถึง 4.6-5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลกภายในปี 2565 (FIS Global, Statista) ซึ่ง E-wallets และการชำระเงินดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิมอย่างที่เราทราบกัน เราสามารถพูดได้ว่าคนทั่วโลกติดใจการชำระเงินหรือทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ ผู้ใช้บริการเพลิดเพลินกับประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวก สบาย ง่าย และปลอดภัย กับบริการต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มการชำระเงิน เช่น PayPal และ Square ซึ่งช่วยให้ลูกค้า ร้านค้า และธุรกิจสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ และนี่คือก้าวต่อไปที่สำคัญคือการเปิดประตู่สู่ Crypto Payments หรือการใช้ Blockchain เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ
เอกราช ศรีศุภวิชากิจ, AFPT
Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex Trader
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #crypto #Payment #cryptocurrency #ecommerce