พอล ทูโด โจนส์ (Paul Tudor Jones) มหาเศรษฐีอเมริกันระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงยักษ์ใหญ่อย่าง “Tudor Investment Corporation” ได้เน้นย้ำมุมมองความคิดของเขาว่า แม้ปัจจุบันตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะเผชิญกับความผันผวน แต่ในอนาคตเขาเชื่อว่าคริปโตฯ อย่างเช่น Bitcoin (BTC) จะมีราคาสูงขึ้น ‘สักวันหนึ่ง’
Jones ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Squawk Box ซึ่งเป็นรายการโทรทัศน์ข่าวธุรกิจอเมริกันของสำนักข่าว CNBC ว่า หากอัตราเงินเฟ้อไม่ถูกควบคุมจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับลดหย่อนงบประมาณ
Paul Tudor Jones ยังคงถือ Bitcoin (BTC)
มหาเศรษฐีพันล้านกล่าวว่า เขายังคงถือ Bitcoin (BTC) และเปิดเผยว่า “เป็นการลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” โดยเขากล่าวว่า “เมื่อมีเงิน (ในตลาด) มากเกินไป สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Bitcoin (ฺBTC) และ Ethereum (ETH) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมันมีจำนวนจำกัด จะมีมูลค่าสูงขึ้น ณ จุด ๆ หนึ่ง”
Jones ยังกล่าวต่ออีกว่า ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าวันนั้นที่ราคา Bitcoin (BTC) สูงขึ้นจะมาเมื่อไร แต่ Bitcoin (BTC) จะมีมูลค่าสูงขึ้นเพราะความขาดแคลน และมูลค่านั้นจะสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างมาก
รายใหญ่เก็บ Bitcoin (BTC) สู้เงินเฟ้อ
วิล เคลเมนเต้ (Will Clemente) ผู้ร่วมก่อตั้ง Reflexivity Research ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและบริษัทดำเนินการซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ (Proprietary trading) ได้แบ่งปันมุมมองของเขาที่มีต่อถ้อยแถลงของ Paul Tudor Jones ว่า “เหล่า Big Boy (คำแสลงใช้เรียกรายใหญ่ในโลกการเงิน) เข้าใจและรู้ดีว่า Bitcoin (BTC) คือสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้ว”
“แน่นอนว่าเงื่อไขทางการเงินในปัจจุบันนั้นสวนทางกับเทรนด์มาสักพัก แต่แค่บอกให้รู้ไว้ว่า Bitcoin (BTC) ในตอนนี้ถูกมองว่าเป็นตัววัดเงื่อนไขสภาพคล่อง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ สำหรับการทำให้สินทรัพย์นี้ชอบด้วยกฎหมายในอนาคต” Clemente กล่าวเสริม
แนวคิดอีกมุมของผู้ไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตามมีผู้ไม่เห็นด้วยกับมหาเศรษฐีรายนี้โดยเฉพาะ ‘นักแช่ง Bitcoin’ อย่างปีเตอร์ ชิฟฟ์ (Peter Schiff) ที่วิจารณ์ความคิดเห็นของมหาเศรษฐีพันล้านอย่างรุนแรงโดยกล่าวว่า “Jones ได้ทำกำไรไปแล้วสินะ และตอนนี้ก็กำลังเล่นพนันด้วย House Money (ศัพท์แสลงหมายถึงกำไรที่ได้จากการพนัน/ลงทุน)”
“Paul Tudor Jones เพิ่งยอมรับว่ายังคงถือ Bitcoin (BTC) เล็กน้อย ไม่ใช่การยืนยันที่น่าสนใจจากนักลงทุนหลักรายใหญ่อย่างเขา ผมเดาว่า Jones คงทำกำไรจาก Bitcoin (BTC) ไปแล้วและตอนนี้กำลังเดิมพันโบนัสด้วย House Money”
คำพูดและอิทธิพลต่อตลาด
เมื่อกลางปี 2020, Jones ได้ลงทุนใน Bitcoin (BTC) ประมาณ 1% ของพอร์ตการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐของเขา ในเวลาต่อมาเขากล่าวว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ดำเนินนโยบายการเงินแบบนี้ต่อไปเขาอาจพิจารณาลงทุนใน Bitcoin (BTC) มากถึง 5% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ความคิดเห็นดังกล่าวผลักดันราคาคริปโตฯ หลายตัวให้สูงขึ้นในช่วงเวลาของตลาดกระทิง
แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าความเห็นของเขาเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาด หลังจากที่ Bitcoin (BTC) ไม่สามารถดีดตัวขึ้นจากแนวรับ 19,000 – 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 720,000 – 760,000 บาท) เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน
ข่าวโดย คุณานันต์ TECHTORO 💙❤️
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
[email protected] : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #Crypto #Bitcoin #BTC #Blockchain #Bullish #บล็อกเชน #คริปโต #บิตคอยน์ #ข่าวคริปโต