BDMS และ BH เป็นหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่นักวิเคราะประเมินว่าผลประกอบการยังเติบโตได้แม้รายได้จากการรักษาผู้ป่วย Covid-19 จะลดลง ซึ่งผลประกอบการที่ฟื้นตัวมาจากรายได้ของผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาในไทยโดยเฉพาะผู้ป่วยจากตะวันวันออกกลางที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่แนวโน้มกำไรสุทธิจะเติบโตได้มากแค่ไหน มีปัจจัยบวกอะไรบ้าง และราคาหุ้นยังน่าสะสมหรือไม่ แอดมินมีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝาก
BDMS คาดกำไร 2.3 พันล้านบาท
โดย BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.เคทีบีเอสที ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 2,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากไตรมาส 2/64 แต่ลดลง 32% จากไตรมาส 1/65 ซึ่งกำไรที่เติบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากรายได้รวมที่ขยายตัว 26% จากรายได้ Non-Covid ขยายตัว 31% จากผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศขยายตัว คาดสัดส่วนรายได้ Covid-19 อยู่ที่ 9% รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวจากสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เกิดจาก low season ของกลุ่มโรงพยาบาล รายได้ Covid-19 ปรับตัวลดลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง และ Home Isolation เต็มไตรมาส
รายได้ผู้ป่วยทั่วไปฟื้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 9% เพื่อสะท้อนของสมมติฐาน GPM ที่เพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของรายได้ผู้ป่วยทั่วไปที่ดีขึ้นทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่เร็วกว่าคาด โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 10,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน และปี 2566 ที่ 11,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีนี้ หนุนโดยรายได้รวมขยายตัว 14% คาดสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติกลับสู่ระดับปกติที่ 30% และรายได้ที่ไม่ใช่ Covid-19 ขยายตัวต่อเนื่อง
ด้านราคาหุ้นของ BDMS ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมามาจากการเปิดประเทศ ปรับตัวขึ้น outperform SET ราว 11% และ 14% หนุนโดยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (medical tourism) ที่ขยายตัว ปัจจุบัน BDMS เทรด PER ปี 2566 ที่ 37.7x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปี) อีกทั้งยังมี upside จากผู้ป่วยต่างชาติที่สูงกว่าคาด และ BDMS Siver Wellness & Residence ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายที่ 31.00 บาท อิง PER ปี 2566 ที่ 44.0x (เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)
BH คาดกำไร 762 ล้านบาท
ส่วน BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.บัวหลวง ระบุว่า คาดการณ์กำไรหลักในไตรมาส 2/65 จะอยู่ที่ 762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 260% จากไตรมาส 2/64 และ 5% จากไตรมาส 1/65 ซึ่งปัจจัยหนุนมาจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ฝ่ายวิเคราะห์คาดรายได้กลุ่มการแพทย์คิดอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 4.8% จากไตรมาสก่อนหน้า คาดรายได้ผู้ป่วยต่างประเทศที่ 2.4 พันล้านบาทในไตรมาส 2/65 เพิ่มขึ้น 74% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 6% จากไตรมาสก่อนหน้า (คิดเป็น 80% ของประมาณการเฉลี่ยรายไตรมาสปี 2562 ที่ 3.0 พันล้านบาท) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 42% เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 36.1% ในไตรมาส 2/64 (เมื่อมีการลดราคาลงมาก) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 41.6% ในไตรมาส 1/65
ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น BH ได้เซ็นสัญญาค่ายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ล่วงหน้าไว้อย่างน้อย 1-2 ปี สำหรับส่วนต้นทุนทางพนักงานเพิ่มส่งต่อไปที่ราคาได้ โดยเฉพาะการปรับลดการให้ส่วนลด นอกจากนี้ BH ยังเป็นผู้นำในตลาดซาอุดิอาระเบีย โดยคาดว่าในอีก 3-6 เดือน จะเห็นการเข้ามาของผู้ป่วยจากประเทศซาอุดิอย่างชัดเจน ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองว่าจะมี upsize ต่อประมาณการณ์รายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ 5-7%
ลุ้นจ่ายปันผลปีนี้ 3.30 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า BH จะรายงานสถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นปี 2565 ที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงบดุลที่แข็งแกร่งที่สุดในหุ้นกลุ่มการแพทย์ที่บล.บัวหลวงให้คำแนะนำ ประมาณการอัตราเงินปันผลต่อหุ้นในปี 2565 อยู่ที่ 3.30 บาท (ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 94%) เงินปันผลขั้นต้นที่ 1.8% ดังนั้นยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 190 บาท
________________________________
ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์
กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻
FB : https://techtoro.me/web-fb
LINE@ : https://techtoro.me/web-line
Youtube : https://techtoro.me/web-yt
IG : https://techtoro.me/web-Ig
Twitter : https://techtoro.me/web-tw
Blockdit : https://techtoro.me/web-bd
Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok
Email : [email protected]
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #หุ้น #หุ้นกลุ่มซีพี #การลงทุน #หุ้นโรงพยาบาล #BDMS #BH