ส่องงบ CBG- OSP หุ้นเครื่องดื่มชูกำลังสุดฮอต ไตรมาส 3 กำไรยังเติบโตดีหรือไม่ ?

โดย ศุภมาศ

ภายหลังการประกาศงบของหุ้นกลุ่มธนาคาร น่าจะได้เห็นหุ้นกลุ่มอื่นๆ ทยอยประกาศงบไตรมาส 3/65 ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา Wealthy Thai ได้นำเสนอคาดการณ์กำไรสุทธิของหุ้นบางกลุ่มไปบ้างแล้ว วันนี้เป็นคิวของ 2 หุ้นฮอตในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังอย่าง CBG และ OSP ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มไตรมาส 3/65 อาจอ่อนตัว แต่จะเห็นแนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/65

ส่องงบ CBG- OSP หุ้นเครื่องดื่มชูกำลังสุดฮอต ไตรมาส 3 กำไรยังเติบโตดีหรือไม่ ?

บล.พาย ระบุว่า สำหรับ CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 3/64 แต่ลดลง 17% จากไตรมาส 2/65 โดยกำไรที่ฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แรงหนุนจากยอดขายที่ฟื้นขึ้น 19% จาก 1. การผ่อนปรนมาตรการ Covid-19, 2. ส่วนแบ่งตลาดในประเทศที่สูงขึ้น และ 3. การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Kanzou X2 และ Woody C+ lock รสลิ้นจี่) ส่วนกำไรที่ลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อนหน้า มาจากยอดขายที่อ่อนแอในตลาด CLMV โดยเฉพาะเมียนมาที่เผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/22 จะเติบโตขึ้นทั้งจากไตรมาส 4/64 และไตรมาส 3/65 จากกำลังซื้อที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำรายวัน และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงขึ้นจากต้นทุนม้วนอลูมิเนียมที่ลดลง

ในส่วนของราคาหุ้น CBG ลดลง 31% จากช่วงต้นปี สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับยอดขาย CLMV ที่ฟื้นตัวช้าและการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นในตลาดเครื่องดื่มซูกำลังไปเกือบหมดแล้ว หลังจากคู่แข่งรายสำคัญทำการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นในเดือน มี.ค. 2565 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวดี 25% ในปี 2566 จึงมองว่าราคาที่ย่อตัวลงมาเปิดโอกาสในการเข้าสะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 120 บาท อิง 35xPE ปี 2566 หรือที่ค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังของไทย

             ด้าน OSP หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 340 ล้านบาท ลดลง 41% จากไตรมาส 3/64 และลดลง 44% จากไตรมาส 2/65 ต่ำสุดตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จากปัจจัยกดดัน 1. รายได้กลุ่มเครื่องดื่มในประเทศที่ลดลง, 2. ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และ 3. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายที่ก้าวกระโดดขึ้นเป็น 25.4% จาก 23.5% ในไตรมาส 3/64 สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายโฆษณาที่สูงขึ้น แต่ว่าคาดผลงานในไตรมาส 4/65 จะดีขึ้นจากไตรมาส 3/65 ตามการฟื้นตัวของรายได้ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ได้แรงผลักจากกำลังซื้อที่สูงขึ้น หลังจากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวัน และอัตรากำไรขั้นต้น(GPM) ที่สูงขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น

             ขณะเดียวกันบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ M150 รสน้ำผึ้ง ขวดละ 10 บาท ในเดือนส.ค. 2565 ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงได้ แต่แนะนำนักลงทุนรอให้ส่วนแบ่งตลาดแตะจุดต่ำก่อนตัดสินใจลงทุน แม้ราคาหุ้น OSP ลดลงไปแล้ว 27% จากช่วงต้นปี จากความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ หลังจากที่บริษัทปรับเพิ่มราคาขายผลิตภัณฑ์ของตนในเดือน มี.ค. 2565 จึงคงคำแนะนำ “ถือ” แต่ลดราคาเป้าหมายเป็น 28.00 บาท จาก 32.00 บาท อิง 28.5x PE ปี 2566 หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี

________________________________

ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์

กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻

FB : https://techtoro.me/web-fb

LINE@ : https://techtoro.me/web-line

Youtube : https://techtoro.me/web-yt

IG : https://techtoro.me/web-Ig

Twitter : https://techtoro.me/web-tw

Blockdit : https://techtoro.me/web-bd

Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok 

Email : [email protected]

#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #Stocks #หุ้น #หุ้นเด่น #CBG #OSP #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย