5 ปัจจัยที่ทำให้ BDMS “น่าลงทุน” ในช่วงตลาดหุ้นผันผวน

ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนแบบนี้การเลือกลงทุนในหุ้นสักตัวอาจเป็นเรื่องยาก เพราะต้องหาหุ้นที่มีพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ และมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดี ซึ่ง BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้น Defensive ที่บล.กสิกรไทย แนะนำในช่วงตลาดหุ้นผันผวน เพราะคาดว่ากำไรไตรมาส 1/65 จะเติบโตสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนน้อย รวมถึงยังเห็นแนวโน้มรายได้จากคนไข้ต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง

ไตรมาส 1/65 กำไรพุ่ง 131%

นักวิเคราะห์จาก บล.กสิกรไทย ระบุว่า ยกให้ BDMS เป็นหุ้น Defensive ในช่วงตลาดหุ้นผันผวน และเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มการแพทย์ โดยคาดกำไรปกติในไตรมาส 1/65 จะอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 131% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนหน้า ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส ซึ่งการปรับตัวดีขึ้นเชิงจากไตรมาส 4/64 ได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) ที่ลดลง ผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครนจำกัด โดยรายได้คนไข้ต่างประเทศจากรัสเซียอยู่ที่เพียง 0.3% ของรายได้ทั้งหมด รวมถึงยังเห็นแนวโน้มรายได้จากลูกค้าต่างชาติเติบโตดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/2565 จึงให้คำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 27.3 บาท

เริ่มรับรู้รายได้ธุรกิจร่วมทุนปี 2566

ด้านนักวิเคราะห์จากบล.โนมูระ พัฒนสิน ก็เลือกให้ BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มฯ เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า การร่วมลงทุนระหว่าง BDMS กับ COM7 เพื่อดำเนินธุรกิจร้านขายยาขนาดใหญ่ในรูปแบบ Standalone และตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอง Slightly positive เนื่องจาก

1. คาดมี Synergy ร่วมกันระหว่าง BDMS ที่มีความชำนาญทางการแพทย์ มีโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในเครือ ส่วน COM 7 มีความชำนาญในบริหารร้านค้าปลีก มีระบบบริหารสินค้าแข็งแกร่ง

2. จะเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมในอนาคต

และ 3. ต่างกับร้าน Save drug ทั้งขนาด, ประเภทสินค้า, ทำเลที่ตั้ง และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้จะไม่เกิด cannibalize กัน 

นอกจากนี้จากการสอบถาม BDMS ยังระบุว่า

1. ร้านรูปแบบใหม่จะมีขนาด 300-400 ตารางเมตร ใหญ่กว่าร้าน Save drug ที่มีขนาด 100 ตารางเมตร,

2. สินค้าครอบคลุมทั้งยาสามัญทั่วไป, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, อุปกรณ์การแพทย์ และ Gadget อุปกรณ์เพื่อสุขภาพต่างๆ ทั้งนี้ BDMS จะไม่ระบุตัวเลขเงินลงทุนต่อสาขา และแผนขยายสาขาที่ชัดเจน โดยเงินลงทุนส่วนของ BDMS ที่ 120 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในเฟสแรกที่จะเริ่มเปิดสาขาในไตรมาส 4/65 ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าจะเริ่มเห็นผลบวกจากรายได้ธุรกิจใหม่ในปี 2566 เป็นต้นไป (ยังไม่รวมในประมาณการ BDMS) 

สำหรับคำแนะนำ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ ซื้อ BDMS ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 29.30 บาท และยังเลือกเป็นหุ้นเด่น เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้มี Capacity สำหรับให้บริการรองรับการเติบโตต่อเนื่องในช่วง Post COVID และมองว่า BDMS มีความเสี่ยงน้อยต่อการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคต รวมถึงอัตราค่ารักษาครอบคลุมลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป ทำให้มีโอกาสขยายฐานลูกค้ากลุ่มประกันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราใช้บริการในระยะยาว และมีผลบวก Economy of scale จากการใช้บริการ ทำให้คาดว่า EBITDA margin มีแนวโน้มดีขึ้นจาก 20.1 % ในปี 2565 เป็น 21.0% ในปี 2566 ตามลำดับ

________________________________

ไม่พลาด! ทุกความรู้ที่จะให้คุณค่ามากกว่าสินทรัพย์

กดติดตาม Techtoro ได้ที่ 👉🏻

 FB : https://techtoro.me/web-fb

 LINE@ : https://techtoro.me/web-line

 Youtube : https://techtoro.me/web-yt

 IG : https://techtoro.me/web-Ig

 Twitter : https://techtoro.me/web-tw

 Blockdit : https://techtoro.me/web-bd

 Tiktok : https://techtoro.me/web-tiktok 

Email : [email protected]

#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้ #BDMS #Stock #Investment #หุ้น #หุ้นโรงพยาบาล #หุ้นDefensive